Thursday, February 12, 2009

ล้อชื่อพ่อ

ได้ดูบอลโลกรอบชิงระหว่างฝรั่งเศสกับอิตาลี ซึ่งนัดนี้ผมเชียร์ฝรั่งเศสนะ
เพราะว่าอยากให้ซีดานจบชีวิตการค้าแข้งแบบสวยงาม แต่ว่าเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นประมาณนาทีที่ 110 ของการแข่งขัน ซีดานเอาหัว (โล้นๆ) ไปโหม่งที่ยอดอกของมาเตราซซี่ของอิตาลีจนลงไปกองกับพื้น และในที่สุดซีดานก็โดนใบแดงไล่ออกไป โดยฉากหลังที่เดินออกไปก็คือถ้วยบอลโลกที่อยู่บนแท่น ดูแล้วน่าเสียใจมาก และในที่สุดฝรั่งเศสก็แพ้จุดโทษไปในที่สุด

จากภาพช้าตอนที่ซีดานมีเรื่อง ก็ปรากฎว่ามีบทสนทนาสั้นระหว่างคู่กรณีทั้งสอง บางสื่อก็บอกว่ามาเตราซซี่ไปด่าแม่ของซีดาน บ้างก็ว่าเหยียดผิว ว่าเป็นพวกผู้ก่อการร้าย แต่จากที่หลายคนคาดเดาก็คิดว่าต้องเป็นคำที่รุนแรงมาก ไม่งั้นคงไม่สติแตกขาดผึงขนาดนั้น แต่ว่าถ้าถึงกับด่าแม่แล้ว คิดว่าหลายคนคงเข้าไปต่อยเหมือนกัน

ผมก็เคยต่อยกับเพื่อนตอน ม.หนึ่ง เรื่องล้อชื่อพ่อนี่แหล่ะ ตอนที่เข้า ม.หนึ่ง มาใหม่ๆ เป็นช่วงที่ต้องปรับตัวและทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ พอมาเรียนได้หลายอาทิตย์ ก็มีเพื่อนมาถามชื่อพ่อ ไอ้เราไม่รู้ทันมันก็เลยบอกมันไป อีกไม่กี่วันมันก็เอาชื่อพ่อเรามาล้อ ก็ไม่ได้ว่าอะไรแต่เจ็บใจที่ไม่รู้ชื่อพ่อมัน

ก็เลยหาทางสืบชื่อพ่อมัน โดยเข้าไปค้นที่ห้องแนะแนว เพราะมันจะมีทะเบียนประวัตินักเรียนอยู่ ปรากฎว่าคราวนี้ก็รู้ชื่อพ่อชื่อแม่กันเกือบทั้งห้อง ล้อกันสนุกไปเลย ซึ่งมันก็ไม่ได้ล้ออะไรกันมาก แค่เรียกชื่อพ่อชื่อแม่ไปมา ไม่เห็นน่าสนุกตรงไหน ไม่รู้ว่าโรงเรียนผู้หญิงล้วนจะเป็นกันอย่างนี้หรือเปล่า แต่โรงเรียนชายล้วนคาดว่าคงจะล้อกันเป็นปกติ

ตอนที่จะมีเรื่องก็มีเพื่อนคนนึงมาล้อชื่อพ่อ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ชินแล้ว ว่างั้นเหอะ แต่เรื่องมันเกิดเพราะพอเราจะล้อชื่อพ่อมันบ้าง มันไม่ให้ล้อ อย่างนี้ก็เป็นเรื่องสิวะ ทำไมล้อชื่อพ่อกูได้ แต่กูล้อชื่อพ่อมึงไม่ได้ ก็ถึงขั้นต่อยกัน แต่ก็มีเพื่อนมาแยกๆ กันออกไป วันหลังมันก็ทำอย่างนี้อีก คราวนี้ก็เลยเอามันกลับเพราะคราวนี้ไปรู้ชื่อปู่มันมา ก็เลยเอามาล้อ ปรากฎว่าก็ต่อยกันอีกแล้ว จำได้ว่าตอนนั้นที่ห้องนั่งรถเมล์กันทั้งห้องเพราะต้องไปงานอะไรซักอย่างจำได้ว่าชกกันในรถเมล์เลย

หลังจากนั้นพอขึ้นมา ม. สูงๆ แล้วก็ยังเรียกชื่อพ่อกันอยู่แต่ก็ไม่ได้เรียกแบบล้อเลียนเหมือนตอนเด็กๆ ที่อยู่ ม.หนึ่ง แต่ว่าเรียกเป็นเสมือนชื่อตัวเองเลย เพราะจำได้ว่าตอนอยู่มัธยมไม่ค่อยเรียกชื่อเล่นกัน เรียกชื่อจริงไม่ก็ชื่อพ่อ (แม่) เพื่อนบางคนรู้จักกันมาตั้งนาน ชื่อเล่นก็ไม่รู้ ชื่อจริงก็ไม่รู้ จำได้แค่ชื่อพ่อ

ปัญหาก็มีบ้างโดยเฉพาะวันลงทะเบียนเรียน ซึ่งต้องมีผู้ปกครองมาด้วย วันนั้นก็เลยต้องกำชับกันเป็นพิเศษว่าชื่อจริงๆ ของเราชื่ออะไร แต่ก็มีหลุดๆ กันบ้างเพราะไม่ค่อยได้เรียกชื่อจริงกัน จำได้ว่าครั้งนึงแม่ไปลงทะเบียนด้วย มีเพื่อนคนนึงตะโกนเรียก แต่มันเรียกชื่อพ่อ ก็เลยต้องทำเป็นไม่รู้จัก ไม่สนใจ (คือก็มีเพื่อนหลายคนเข้าใจผิดว่าชื่อพ่อเป็นชื่อเราไปแล้ว)

เคยมีเพื่อนเล่าให้ฟังว่าโทรไปบ้านเพื่อนอีกคน แล้วพ่อมันรับ ก็เลยเรียกชื่อพ่อไป พ่อของเพื่อนคนนั้นก็เลยตอบว่า กำลังพูดอยู่ มีธุระอะไร เรียกว่าจ๋อยไปเลย พอเข้ามหาลัยไปได้ ดีใจมากที่จากนี้จะได้ไม่มีใครเรียกชื่อพ่อเราซะที แต่ว่าตอนอยู่มหาลัยก็มีเรียกชื่อพ่อกันบ้าง แต่ไม่ค่อยมาก มีประปรายตามประสาพวกไม่ค่อยโต

แต่ที่เกือบซวยเพราะเรียกชื่อพ่อเพื่อนก็มี ตอนนั้นอยู่มหาลัยแล้ว ไปดูบอลที่โรงเรียนแข่งที่สนามเทพหัสดิน ก็มีเพื่อนคนนึงเดินมา พ่อมันชื่อ "เฉลิม" เราก็ตะโกนเรียกมัน "ไอ้เหลิมๆ" ปรากฏว่าไม่ห่างนัก ก็มีรุ่นพี่สองคน มาพร้อมชายหลายคนในชุดซาฟารีกำลังยืนดูบอลอยู่ รุ่นพี่สองคนนี้ก็เป็นที่รู้จักตามหน้าหนังสือพิมพ์ เป็นที่เกรงกลัวของนักเที่ยวกลางคืนทั้งหลาย แต่ยังไงพี่เค้าก็รักโรงเรียน ไปเชียร์บอลแทบทุกครั้ง พอเห็นพี่สองคนนั้นก็ซีดไปเลย โชคดีว่าพี่สองคนและกลุ่มชายเสื้อซาฟารีไม่ได้ยิน อาจเป็นเพราะเที่ยวกลางคืนบ่อยหูเลยไม่ค่อยดี ไม่งั้นถ้าเกิดแกได้ยินแล้วคิดว่าล้อชื่อพ่อแก คงได้กองอยู่แถวนั้นแน่

(เขียนเมื่อ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙)

No comments:

Post a Comment